หากกล่าวถึงสำนักไสยเวทย์ วันนี้ หวยสด ของเรา พาเพื่อนๆมารู้จักกับวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่ศรัทธาของคนทั่วประเทศ จะต้องนึกถึงสำนัก วัดเขาอ้อจังหวัดพัทลุง ที่มีครูบาอาจารย์ผู้มีพุทธาคมเข้มขลัง หลายท่านที่เรารู้จัก เช่น พระอาจารย์ทองเฒ่า, พระอาจารย์ปาน ปาลธัมโม, พระอาจารย์นำ แห่งวัดดอนศาลา ศิษย์ฆราวาสที่คนรู้จักนับถือคือ พลตำรวจตรี ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช, อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์ฉันทิพย์ พันธรักษ์ราชเดช, ล้วนเป็นศิษย์สำนักพุทธาคมเขาอ้อที่ทั้งสิ้นด้วยเหตุว่าวัดเขาอ้อ คือศูนย์รวมของสรรพวิทยาการหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นไสยเวทย์ คาถาอาคม ยาสมุนไพรนานาชนิด ล้วนได้รับการสืบสานส่งต่อกันมาจากบูรพาจารย์ในอดีต จนได้รับการขนานนามให้เป็น สำนักตักศิลามหาเวทย์แห่งปักษ์ใต้ เนื่องจากลูกศิษย์หลายๆ คนล้วนเป็นผู้มีมนต์คาถาเข้มขลังคงกระพันชาตรี มีวีรกรรมสำคัญจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะ “ขุนพันธ์” (ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช) มือปราบหนังเหนียวแห่งปักษ์ใต้
วัดเขาอ้อจังหวัดพัทลุง จากอดีตเล่าขานเนินนานมา
ตามประวัติที่เล่าต่อกันมา สำนักวัดเขาอ้อจังหวัดพัทลุง ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 800 โดยพราหมณ์กลุ่มหนึ่งที่อพยพมาจากอินเดีย เนื่องจากในยุคนั้นศาสนาพุทธในชมพูทวีปกำลังรุ่งเรือง ทำให้ศาสนาพราหมณ์เริ่มลดอิทธิพลลง จึงออกจากชมพูทวีปมาหาฐานที่มั่นใหม่ เรียกว่ายุค “ดราวิเดียนยาตรา” พราหมณ์เหล่านั้นได้ใช้ถ้ำที่เขาอ้อ เป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดสรรพวิชาวิทยาคมให้กับชนชั้นสูง ขุนนาง และลูกของกษัตริย์ จนกระทั่งถึงยุคที่ศาสนาพุทธได้เผยแผ่เข้ามาที่เมืองนครศรีธรรมราชและแผ่ลงมาถึงสำนักเขาอ้อ เหล่าพราหมณ์จึงมอบวิชาพระเวทย์และวิทยาคมทั้งหมดไว้ให้กับ “พระอาจารย์ทอง วัดน้ำเลี้ยว” และได้สืบทอดกันมาหลายร้อยปีจนถึงปัจจุบัน ทำให้วัดเขาอ้อมีความผสานผสมกลมกลืนของพุทธศาสนาและความเชื่อตามพิธีกรรมของพราหมณ์ อย่างเห็นได้ชัดเจน
วัดเขาอ้อจังหวัดพัทลุง สิ่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
สำหรับผู้ที่มีความศรัทธาในสรรพวิชาวิทยาคมของวัดเขาอ้อหรือนักท่องเที่ยวสายลุยที่ชอบการไหว้พระขอพร การมาเยือนวัดเขาอ้อถือว่าเป็นทริปคุ้มมากๆ เพราะจะได้มาสัมผัสถึงถิ่น สำนักตักศิลาแห่งไสยเวทย์ที่เข้มขลังที่สุดและเป็นสำนักตักศิลาไสยเวทย์หนึ่งเดียวในประเทศไทย ได้เดินขึ้นภูเขาไปกราบ นมัสการรอยพระพุทธบาทจำลอง และเดินเข้าไปภายในถ้ำฉัททันต์บรรพต ซึ่งเคยเป็นถ้ำที่เหล่าฤาษีและพราหมณ์ใช้บำเพ็ญพรตในอดีต ถือเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีบรรยากาศลึกลับมาก ภายในมีพระพุทธรูปปูนปั้นเรียงรายอยู่ตามผนัง และมีรางยาแช่ว่าน (จำลอง) ของท่านขุนพันธ์ ให้ชมด้วย ซึ่งของจริงในอดีตนั้นใช้เรือไม้ที่นอนได้ 2 คน นำเข้ามาตั้งไว้ในถ้ำ แล้วต้มน้ำว่านยา 108 ชนิดที่ปลุกเสกแล้ว มาเทลงในเรือไม้ให้นอนแช่ จนครบตามเวลาที่กำหนด โดยท่าน “ขุนพันธ์” ได้เคยมาร่ำเรียนวิชาคาอาคม และอาบน้ำว่านในรางยาที่วัดเขาอ้อถึง 7 ครั้ง ครั้งละ 7 วัน ถือเป็นผู้เดียวในประวัติศาสตร์ที่ลงแช่ว่านอาบยาได้นานที่สุด ทำให้ท่านขุนพันธ์กลายเป็นมือปราบหนังเหนียวผู้เลื่องลือ
อยากเข้าชมพิธีแช่ว่านอาบยา ต้องมาช่วงเวลาไหน
ที่ วัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง นอกจากความเชื่อเรื่องไสยเวทย์ และสรรพวิทยาคมแล้ว ยังมีเครื่องลางของขลังอันศักดิ์สิทธิ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและศรัทธาให้ซื้อหาบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย ในแง่ของการท่องเที่ยว เราสามารถเข้าไปเที่ยวชมหรือกราบพระกันได้ตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงเดือน 3 จะมีงาน ไหว้ครูบูรพาจารย์วัดเขาอ้อ ซึ่งกำหนดจัดงานในวันขึ้น 6 – 8 ค่ำ ของทุกๆ ปี จะมีการจัดพิธีสำคัญๆ ขึ้นมากมาย ตั้งแต่การแช่ว่านอาบยา (ปัจจุบันรับได้เพียงปีละ 11 คน) พิธีสะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตา พิธีหุงข้าวเหนียวดำ และพิธีกินเหนียวกินมัน จะมีลูกศิษย์และผู้ศรัทธาจากทั่วประเทศหลั่งไหลเข้าร่วมงานดังกล่าว ตลอด 3 วัน 3 คืน จำนวนหลายพันคน นับว่าน่าตื่นตาตื่นใจและน่าตื่นเต้นมาก ที่หากได้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์และหาดูได้ยากเช่นนี้ ที่เหลือเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยในการจัดงานไหว้ครูบูรพาจารย์พิธีแช่ว่านอาบยาจุดจัดพิธีจะถูกย้ายจากในถ้ำฉัททันต์บรรพต มาเป็นบริเวณเชิงเขาอ้อ ที่ต้องเดินขึ้นบันไดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เรื่องเล่าขานตำนาน วัดเขาอ้อ พิธีแช่ว่านอาบยา
วัดแห่งนี้ เป็นวัดโบราณสร้างมานานหลายชั่วอายุคนนับว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดจังหวัดพัทลุงพิธีกรรมต่าง ๆ ตามหลักไสยศาสตร์ของวัดได้รับการแพร่ขยายออกไปสู่ในจังหวัดใกล้เคียงเนื่องจากส่วนใหญ่เจ้าอาวาสในวัดนั้น ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์ที่มาร่ำเรียนวิชาไปจากวัดเขาอ้อทั้งสิ้น แต่มีพิธีหนึ่งซึ่งไม่ว่าวัดใดก็ไม่สามารถที่จะทำได้จะต้องใช้สถานที่ในวัดเขาอ้อเท่านั้น คือ “การอาบว่าน และแช่น้ำยา” เพื่อสร้างความขลังให้กับผู้ที่เข้าร่วมพิธี การอาบว่านแช่น้ำยานี้ถือได้ว่าเป็นสุดยอดวิชาวัดเขาอ้ออย่างแท้จริง ผู้ใดที่ได้ลงไปนอนแช่น้ำยาอาบว่านและผ่านการปลุกเสกตามหลักวิชาไสยศาสตร์ของพระอาจารย์ ผู้มีกฤติยาคมแกร่งกล้าของวัด หากคนๆ นั้นประพฤติปฏิบัติตนตามคำสั่งสอนของอาจารย์ผู้ทำพิธีให้ ก็สามารถเชื่อน้ำยากินได้เลยว่าคน ๆ นั้นจะอยู่ยงคงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้าอย่างแน่นอน
ความน่าสนใจ ในพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ประจำปีที่ วัดเขาอ้อ
วันนี้มาตามรอยพิธีกรรมสำนักวัดเขาอ้อ เพื่อรำลึกถึงคุณความดีของอดีตบูรพาจารย์ และทำบุญอุทิศให้แก่บูรพาจารย์แห่งสำนักวัดเขาอ้อ ทั้งบูรพาจารย์สายพุทธและสายพราหมณ์ และเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของวัดในฐานะสำนักตักศิลาเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขวาง และเพื่อสิ่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัด โดย นอกจากผู้ที่ได้เข้าพิธีนอนแช่น้ำว่านอาบยานั้น ในบริเวณวัดก็ยังมีการนำว่าน 108 ชนิด ต้มมาแจกจ่ายให้ผู้ศรัทธาที่มาเข้าร่วมพิธีด้วย และในบริเวณวัดมีการนวดพื้นบ้านเพื่อรักษาโรค คลายปวดเมื่อยบริการด้วย โดยวันแรก ‘พิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา’ ให้กับผู้ศรัทธา เพื่อทำให้เราบริสุทธิ์ทั้งกายใจ จะได้ไปเข้าร่วมพิธีหุงข้าวเหนียวดำและพิธีกินเหนียวกินมันในวันต่อไป ซึ่งพิธีนี้ห้ามสตรีเข้ามาภายในพระอุโบสถ สำหรับลูกศิษย์ที่เป็นสตรีสามารถรับบัตรคิวเพื่อรอรับข้าวเหนียวดำที่ผ่านพิธีกรรมปลุกเสกอันศักดิ์สิทธิ์นี้นอกอุโบสถได้เช่นกัน
พระอาจารย์ดังสายวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง
สำหรับสายวัตถุมงคล ท่านที่รักและชื่นชอบพระเครื่องพระบูชา ของขลังวัดนี้มีชื่อเสียงในความเข้มขลังทางวิทยาคมสูงมากมีหลักฐานเชื่อได้ว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศฯ พระอาจารย์ยุคเก่าได้แก่พระอาจารย์ทองเฒ่า, พระอาจารย์ปาน ปาลธัมโม เป็นพระเกจิผู้เข้มขลังทางวิทยาคุณ ต่อจากพระอาจารย์ทองเฒ่า เจ้าสำนักเขาอ้อ วัตถุมงคลที่หลาวพ่อปานสร้างไว้มีหลายอย่างเช่น ตะกรุด พระปิดตาของพระอาจารย์ปานพุทธคุณเน้นหนักไปทางด้านอยู่ยงคงกระพัน และแคล้วคลาด, พระอาจารย์เอียด อดีตเจ้าอาวาสวัดดอนศาลา ผู้สร้างพระปิดตาซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “พระปิดตามหายันต์เขาอ้อ”, พระอาจารย์ดิษฐ์ ติสสโร, พระอาจารย์นำ ชินวโร, พระอาจารย์คง , พระครูกาชาด, พระอาจารย์ศรีเงิน เหล่านี้ต่างเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองเวทย์วิทยาคมสูงทั้งนั้น
เมืองพัทลุงเป็นจังหวัดเล็กๆ ดินแดนแสนสงบ แม้จะถูกจัดฐานะให้เป็นเมืองรอง แต่หากท่านได้ลองมาสัมผัสแล้วจะรู้ว่า ที่นี้มีเสน่ห์เป็นเมืองที่น่าอยู่ ผู้คนน่ารัก งดงามด้วยธรรมชาติที่น่าหลงใหล ศิลปวัฒนธรรม และน้ำใจไมตรีของผู้คน เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว มีที่เที่ยวให้เลือกมากมายเอาใจสายกิน สายลุย และสายสะพายกล้อง เที่ยวพัทลุงสุดอเมซิ่ง ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต วันนี้ไม่มีเรื่องหวย แต่รับรองว่ามาเที่ยวเมืองลุงแห่งนี้ต้องมีขอดีติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน “สวัสดี”
บทความที่น่าสนใจของพารวย
